
ผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาที่พบได้ในหลายคน เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตามวัย หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลายด้าน ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ ทำให้เสียความมั่นใจ โดยในปัจจุบันปัญหาผมร่วง ผมบาง สามารถรักษาให้ผมกลับมาหนา ดกดำ ด้วยวิธีการรักษาด้วย PRP ผม (Platelet Rich Plasma) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการฉีดผมโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับรากผมอย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักกับ PRP ผมคืออะไร PRP ทำบ่อยมากแค่ไหน มีขั้นตอนการทำอย่างไร หาคำตอบทั้งหมดได้ในบทความนี้
PRP ผม คืออะไร? ทำไมต้องใช้เกล็ดเลือดรักษาผมร่วง
PRP ผม (Platelet Rich Plasma) คือนวัตกรรมทางการแพทย์ หรือก็การปลูกผมที่ถูกพัฒนาเข้ามาแก้ปัญหาผมบาง ผมร่วง ฟื้นฟูสภาพเส้นผม กระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ช่วยให้ผมกลับมาขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด โดยจะใช้กระบวนการทำ PRP ผมโดยใช้เกล็ดเลือดของผู้ที่เข้ามาทำการรักษาเพื่อสกัดเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วนำไปฉีดผมตามกระบวนการของการทำ PRP โดยจะเป็นการนำเกล็ดเลือดที่ถูกสกัด ฉีดเข้าไปในบริเวณหนังศีรษะที่พบปัญหาผมร่วง ผมบาง
ใครที่เหมาะกับ PRP ผม

PRP ผม เป็นวิธีการรักษาที่มีความเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม ที่มีความต้องการฟื้นฟูเส้นผมด้วยวิธีที่เป็นธรรมชาติ และไม่ต้องผ่าตัด เพื่อป้องกันปัญหาเส้นผมไม่ให้ลุกลามไปมากยิ่งขึ้น โดยผู้ที่เหมาะที่สามารถปลูกผม PRP จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ แต่ยังไม่สูญเสียเส้นผมทั้งหมด
- ผู้ที่มีปัญหาจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ผู้หญิงหลังจากคลอด, ผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล, ความเครียด
- ผู้ที่มีปัญหาเส้นผมจากอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงไม่สูญเสียเส้นผมทั้งหมด
- ผู้ที่ต้องการปลูกผม ต้องการฟื้นฟูเส้นผมให้ดูหนาดกดำยิ่งขึ้น เพราะว่าการทำ PRP Hair จะเป็นการช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม ทำให้เส้นผมสามารถเติบโตขึ้นได้รวดเร็วอย่างเป็นธรรมชาติ
การเตรียมตัวก่อนทำ PRP ผม
ก่อนที่จะเริ่มทำ PRP ผม การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำ PRP ผมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะจะส่งผลเกี่ยวเนื่องกับผลลัพธ์ของการรักษา ช่วยส่งผลให้ประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเส้นผมได้ดีขึ้น ช่วยให้เซลล์รากผมตอบสนองการรักษาได้ดีมากขึ้น โดยจะมีข้อแนะนำดังนี้
- ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการ PRP ผม ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีการพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อสกัดเกล็ดเลือด
- ดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนเข้ารับการรักษา 24 ชั่วโมง เพื่อให้เลือดไหลเวียน และเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดเกล็ดเลือด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารที่มีไขมันสูง
- สระผมให้สะอาดก่อนเข้ารับการรักษา
- งดการใช้ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่ม NSAIDs, ยากลุ่ม ASA, แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน หรือปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาฉีด PRP ผมล่วงหน้า
- งดเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนทุกชนิดก่อนเข้ารับการรักษา
- งดการสูบบุหรี่ระหว่างช่วงก่อนการรักษา 4 สัปดาห์ ก่อนการรักษา PRP ปลูกผม
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมก่อนทำการรักษา เช่น ย้อมผม, เจล, สเปรย์ฉีดผม
ขั้นตอน PRP ผม

การ PRP ผม จะมีขั้นตอนการรักษาที่เป็นลำดับขั้นตอนที่ใช้เวลาไม่นาน ไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัด หรือนอนพักฟื้น โดยจะมี 3 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
- แพทย์จะทำการเจาะจากข้อพับที่แขนของผู้ที่เข้ามาทำการรักษา PRP Hair
- นำเลือดมาปั่นสกัดเพื่อหาเกล็ดเลือด PRP ที่มีความเข้มข้น
- แพทย์จะนำเกล็ดเลือด PRP ผมที่มีความเข้มข้น ฉีดเข้าบริเวณหนังศีรษะที่ต้องการทำการรักษา
การดูแลตัวเองหลังทำ PRP ผม
แนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ PRP ผม เพราะการรักษาด้วยวิธี PRP ผม ผู้ที่เข้ามาทำการรักษาจะไม่จำเป็นที่จะต้องนอนพักฟื้น เพียงแต่มีการดูแลตนเองหลังทำ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และประสิทธิภาพของการรักษา โดยจะมีข้อแนะนำ คือ
- หลังจากทำ PRP ผม ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ห้ามทำการสระผม เพราะจะทำให้ไปขัดขวางกระบวนการดูดซึมเกล็ดเลือดของหนังศีรษะ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น เจล, ทำสีผม, สเปรย์ ในช่วง 3 วัน หลังจากทำการรักษา PRP ผมเพื่อป้องกันอาการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการเกา หรือสัมผัสหนังศีรษะที่ทำการฉีดผม PRP โดยตรง
- งดการออกกำลังกายทุกประเภท ในช่วง 2-3 วันแรก หลังจากทำการรักษา เพื่อป้องกันเหงื่อโดนจุดที่ฉีด PRP ผม
- หลีกเลี่ยงไม่ให้จุดที่ฉีด PRP ผมโดนกับแสงแดดโดยตรงในช่วง 2-3 วัน หากมีความจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์ป้องกัน
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนทุกชนิด เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ส่งผลต่อระบบการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้ประสิทธิภาพการรักษาด้วย PRP ผมลดลงได้
- งดการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดต่ำลง ทำให้การฟื้นฟูเกิดขึ้นได้ช้าลง
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของร่างกาย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะ อาหารที่มี วิตามินบี, ธาตุเหล็ก, โปรตีน งดอาหารที่มีไขมันสูง
สรุปปลูกผม PRP ผม น่าสนใจขนาดไหน ?
การปลูกผม PRP ถือเป็นวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผม ผมร่วง ผมบาง ที่ยังคงมีรากเส้นผมอยู่ และเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด หรือต้องนอนพักฟื้น โดยการ PRP ผมจะมีจุดเด่นที่จะช่วยกระตุ้นเซลล์ของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง เส้นผมงอกขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ