แบบประเมินความเครียด รู้ระดับความเครียดเบื้องต้น

แบบประเมินความเครียด

ในชีวิตประจำวัน ความเครียดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะเกิดจากการทำงาน ปัญหาทางครอบครัว หรือแม้แต่ภาวะแวดล้อมทั่วไป ความเครียดในระดับที่เหมาะสมอาจช่วยกระตุ้นให้เรามีแรงผลักดันในการดำเนินชีวิต แต่หากความเครียดสะสมมากเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพกายและใจ แบบประเมินความเครียดจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แต่ละคนสามารถทดสอบความเครียดของตนเองเบื้องต้นได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันที 

แบบประเมินเหล่านี้ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิต และนำมาใช้ในหลายหน่วยงาน ทำให้การทำแบบประเมินเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการรู้เท่าทันตนเอง และเป็นเครื่องมือช่วยเตือนเมื่อถึงเวลาที่ควรใส่ใจดูแลสุขภาพจิตอย่างจริงจัง



ประเมินความเครียดคืออะไร สามารถทำยังไงได้บ้าง?

การเช็คโรคเครียดหรือการทำแบบประเมินความเครียด คือกระบวนการตรวจวัดระดับความเครียดที่บุคคลกำลังเผชิญอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยอาศัยแบบสอบถามหรือแบบทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเครียดในชีวิตประจำวัน การประเมินนี้สามารถช่วยให้บุคคลรู้เท่าทันระดับความเครียดของตนเอง และสามารถเลือกแนวทางการจัดการหรือขอความช่วยเหลือได้

แบบประเมินความเครียดมักประกอบด้วยคำถามเกี่ยวกับอารมณ์ เช่น ความวิตกกังวล หงุดหงิด เหนื่อยล้า นอนไม่หลับ หรือรู้สึกหมดแรง เป็นต้นโดยวัดระดับความเครียดจากแบบประเมินจะบ่งบอกระดับความเครียด ตั้งแต่ระดับน้อย ปานกลาง จนถึงมาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดูแลสุขภาพจิต หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญการทำแบบทดสอบความเครียดไม่ใช่การวินิจฉัยโรคทางจิตเวช แต่เป็นเครื่องมือเบื้องต้นที่มีประโยชน์มากในการช่วยให้เราเข้าใจสภาพจิตใจของตนเองเบื้องต้น


ประโยชน์ของแบบประเมินความเครียดคืออะไร?

ทำแบบประเมินความเครียด

ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนต้องเผชิญกับความกดดันและความเร่งรีบในชีวิตประจำวันมากขึ้น การดูแลสุขภาพจิตกลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เช่นการทำแบบประเมินความเครียด การรู้เท่าทันสภาพจิตใจของตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพจิตอย่างยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้คือแบบทดสอบโรคเครียด

ด้วยตัวเอง

  • รู้ทันสัญญาณเตือนก่อนสายเกินไปความเครียดอาจไม่แสดงออกอย่างชัดเจนในช่วงแรก แต่สามารถสะสมและส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจในระยะยาว การทำแบบประเมินช่วยให้เรารับรู้ระดับความเครียดก่อนที่มันจะกลายเป็นปัญหาร้ายแรง
  • เป็นแนวทางในการปรับพฤติกรรมเมื่อรู้ว่าตนเองกำลังเผชิญกับความเครียดในระดับใด เราสามารถเลือกวิธีจัดการที่เหมาะสม เช่น การพักผ่อน การออกกำลังกาย หรือการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ประหยัดเวลาและเข้าถึงง่ายแบบประเมินความเครียดในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านระบบออนไลน์ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ให้ข้อมูลที่มีคุณค่าในการตัดสินใจดูแลสุขภาพจิต
  • ส่งเสริมการดูแลตนเองอย่างมีสติการทำประเมินโรคเครียดด้วยตนเองเป็นการฝึกให้เราหันกลับมาสำรวจความรู้สึกของตนเองอยู่เสมอ เป็นนิสัยที่ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพโดยรวม

แบบประเมินความเครียดมีคำถามประมาณไหนบ้าง?

เมื่อเราพูดถึงแบบประเมินความเครียดหลายคนอาจสงสัยว่าในแบบประเมินนั้นมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรและสามารถบอกระดับความเครียดได้อย่างไร จริง ๆ แล้ว แบบประเมินความเครียดมักประกอบด้วยคำถามง่าย ๆ ที่สะท้อนพฤติกรรม ความรู้สึก และอาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราเผชิญกับความเครียดในชีวิตประจำวัน

เช่น

  • อารมณ์และความรู้สึก รู้สึกวิตกกังวล หงุดหงิด โมโหง่าย เศร้า เบื่อหน่าย หรือหมดแรงในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • อาการทางร่างกายที่เกิดจากความเครียดเช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ใจสั่น นอนไม่หลับ เหนื่อยง่าย หรือรับประทานอาหารได้น้อยลงไหม
  • พฤติกรรมและการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆเช่น การหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางสังคม ขาดสมาธิในการทำงาน หรือใช้สารเสพติด/แอลกอฮอล์เพื่อคลายเครียดไหม
  • การจัดการกับปัญหามองโลกในแง่ร้ายไหมขาดความมั่นใจในการแก้ปัญหา หรือรู้สึกว่าควบคุมชีวิตไม่ได้ไหม

ภาวะเครียดระดับใดที่ควรรีบพบแพทย์?

แบบวัดความเครียด

แม้ว่าแบบประเมินความเครียดจะช่วยให้เรารู้ระดับความเครียดเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง แต่ในบางกรณี ความเครียดที่เกิดขึ้นอาจมากเกินกว่าแบบวัดความเครียดแสดงผล และมากเกินกว่าที่จะรับมือได้ด้วยวิธีทั่วไป หากคุณมีอาการต่อไปนี้ ควรพิจารณาเข้ารับการปรึกษากับจิตแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตโดยเร็ว

  • แบบประเมินความเครียดบ่งชี้ว่ามีความเครียดระดับมากหรือรุนแรงคะแนนในระดับนี้มักสะท้อนถึงความเครียดที่เริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน สุขภาพกาย และความสามารถในการทำงานหรือดูแลตนเอง
  • อาการทางจิตใจรบกวนการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่องเช่น รู้สึกหดหู่หมดหวัง วิตกกังวลอย่างมาก ตื่นตระหนกโดยไม่มีสาเหตุ ร้องไห้ง่าย หรือมีความคิดในแง่ลบต่อตนเองบ่อยครั้ง
  • มีอาการทางร่างกายที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคทางกายทั่วไปเช่น ปวดหัว ปวดท้อง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรือนอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน
  • เริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติเช่น แยกตัว ไม่อยากพบปะผู้คน สูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ ใช้แอลกอฮอล์หรือสารเสพติดเพื่อหลีกหนีความเครียด
  • มีความคิดทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นหากมีความคิดในลักษณะนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยไม่รอช้า เพราะถือเป็นสัญญาณอันตรายที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงสูง

แนวทางการรักษาภาวะเครียดเบื้องต้นทำไงได้บ้าง?

ภาวะเครียดเป็นเรื่องที่สามารถจัดการได้ หากรู้เท่าทันและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แนวทางการรักษาความเครียดนั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับของความเครียดและสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดในแต่ละบุคคล

  • ปรับพฤติกรรมพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์
  • ฝึกผ่อนคลายทำสมาธิ ฝึกหายใจลึก ๆ หรือโยคะ
  • พูดคุยระบายความรู้สึกกับคนใกล้ชิดหรือผู้เชี่ยวชาญ
  • ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์
  • การบำบัดทางจิตเช่น CBT เพื่อปรับความคิดและพฤติกรรม
  • การใช้ยาในกรณีที่ความเครียดรุนแรงและรบกวนชีวิตประจำวัน (โดยแพทย์สั่ง)

แบบประเมินความเครียดภาพรวมเป็นยังไง?

ความเครียด เป็นภาวะที่เกิดจากความกดดันทางจิตใจหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในชีวิตประจำวัน และแบบประเมินความเครียด เป็นเครื่องมือเบื้องต้นที่ช่วยให้เรารู้ระดับความเครียดของตนเอง โดยอาศัยคำถามเกี่ยวกับอารมณ์ พฤติกรรม และอาการทางร่างกายหากพบว่ามีความเครียดในระดับสูง หรือมีอาการที่รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น นอนไม่หลับ หงุดหงิด รู้สึกหมดหวัง หรือมีความคิดทำร้ายตนเอง ควรพบจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทันที


Thank you for your Vote Rating
[Total: 0 Average: 0]