
ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ร่องแก้มลึกก็ยังคงเป็นหนึ่งในสัญญาณแห่งวัยที่หลายคนกังวลใจ ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส และแก่กว่าวัย แต่ในยุคที่เทคโนโลยีความงามก้าวหน้าไปไกล โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม การทำหัตถการง่าย ๆ ที่พลิกโฉมใบหน้าให้กลับมาดูสดใส เปล่งปลั่งอีกครั้ง ช่วยให้มีร่องแก้มที่ตื้นขึ้น ดูอิ่มเอิบ และคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่การตัดสินใจเสริมร่องแก้มนี้ จำเป็นต้องเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและปลอดภัย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร
โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่า Hyaluronic Acid หรือ HA เข้าไปในบริเวณร่องแก้ม ซึ่งเป็นรอยพับที่ลึกจากบริเวณข้างจมูกยาวลงมาถึงมุมปาก เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับร่องแก้มให้ดูดีขึ้น โดยวัตถุประสงค์หลักของโปรแกรมการเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อเติมร่องแก้มให้ตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น ใบหน้าจะดูเต็มอิ่ม อ่อนเยาว์ สดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ต้องฉีดกี่ cc

การจะพิจารณาว่า จะต้องเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มกี่ซีซี (cc) นั้น ไม่มีจำนวนที่ตายตัว เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และที่สำคัญที่สุดคือการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังต่อไปนี้
- ความลึกและความชัดเจนของร่องแก้ม ได้แก่
- ร่องแก้มตื้น/เล็กน้อย อาจใช้ปริมาณโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มน้อย เช่น 1 cc สำหรับทั้งสองข้าง (แบ่งฉีดข้างละ 0.5 cc) หรือ 1 cc ต่อข้าง
- ร่องแก้มปานกลาง อาจต้องใช้ปริมาณโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 – 2 cc ต่อข้าง หรือรวม 2 – 3 cc สำหรับทั้งสองข้าง
- ร่องแก้มลึกมาก/ชัดเจนมาก อาจต้องใช้ปริมาณโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมากขึ้น เช่น 2 – 4 cc สำหรับทั้งสองข้าง หรือมากกว่านั้นในบางกรณี เพื่อเสริมร่องแก้มให้เต็มที่และได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- อายุของผู้ฉีด ในผู้ที่มีอายุน้อย (เริ่มมีร่องแก้ม) มักจะใช้ปริมาณน้อยกว่า เนื่องจากปัญหาเพิ่งเริ่มต้น และผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดี แต่สำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้น การทรุดตัวของกระดูกใต้ตาหรือบริเวณแก้ม และการสูญเสียคอลลาเจน ไขมัน ทำให้ร่องแก้มลึกและชัดเจนขึ้นมาก อาจต้องใช้ปริมาณโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าแก้มที่มากขึ้น
- โครงสร้างใบหน้าและการยุบตัวของกระดูก ในบางคน ร่องแก้มลึกไม่ได้เกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อยเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณโหนกแก้มหรือใต้ตา ซึ่งทำให้เกิดเงาและร่องลึก โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์แก้มอาจต้องมีการปรับแก้ในหลาย ๆ จุดเพื่อยกกระชับและเติมเต็มให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์และสมดุล
- ความหย่อนคล้อยของผิวหนัง การฉีดแก้มอาจช่วยยกกระชับได้ในระดับหนึ่ง แต่ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น Ulthera, Thermage หรือร้อยไหม เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
- ความต้องการและงบประมาณของผู้ฉีดร่องแก้ม แพทย์จะปรึกษาและประเมินร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและเหมาะสมกับผู้ป่วย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อยู่ได้นานแค่ไหน
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ทำให้มีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยเฉลี่ยแล้ว โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- ชนิดและยี่ห้อของสารเติมเต็ม ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านของความหนาแน่น (density) การเชื่อมโยงโมเลกุล (cross-linking) และเทคโนโลยีการผลิต ซึ่งส่งผลต่อความคงทนและระยะเวลาการสลายตัว
- ปริมาณของสารเติมเต็มในโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยทั่วไปแล้ว การฉีดร่องแก้มในปริมาณที่เหมาะสมกับปัญหาและเติมร่องแก้มได้เต็มที่ มักจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการฉีดในปริมาณที่น้อยเกินไป
- แพทย์ที่มีประสบการณ์และความเข้าใจในกายวิภาคของใบหน้าจะสามารถเลือกชนิดสารเติมเต็มที่เหมาะสมและฉีดในตำแหน่งความลึกที่ถูกต้อง ทำให้สารเติมเต็มเข้าที่ได้ดีและอยู่ได้นานขึ้น
- อัตราการเผาผลาญของร่างกายของแต่ละบุคคล คนที่มีเมตาบอลิซึมสูง หรือออกกำลังกายหนักเป็นประจำ อาจทำให้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มสลายเร็วกว่าปกติ
- พฤติกรรมและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะต้องดูแลอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นความร้อน การดื่มน้ำ การพักผ่อน เป็นต้น
- สภาพผิวเดิมและปัญหาของร่องแก้ม หากมีร่องแก้มที่ลึกมากหรือเกิดจากปัญหาการยุบตัวของกระดูกและไขมันที่ค่อนข้างมาก อาจจำเป็นต้องใช้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มปริมาณที่มากขึ้น และอาจสลายเร็วกว่าร่องแก้มตื้น ๆ ที่เกิดจากการขาดน้ำหรือริ้วรอยเล็กน้อย
ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แล้วเป็นก้อนเพราะอะไร

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน ถือเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากปัจจัยของสารเติมเต็มเอง เทคนิคการฉีดของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังฉีดหน้าแก้ม ดังนี้
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ตื้นเกินไปในชั้นผิวหนังแท้ หรือชั้นใต้ผิวหนังที่ตื้นเกินไป จะทำให้มองเห็นเป็นก้อนนูน หรือเป็นรอยคลื่นใต้ผิวได้ง่าย เพราะไม่มีเนื้อเยื่อมาคลุมสารเติมเต็มไว้มากพอ
- ใช้ชนิดสารเติมเต็มไม่เหมาะสมกับบริเวณ เพราะการโบท็อก ร่องแก้มเป็นจุดที่มีการขยับและแสดงสีหน้าบ่อย จะทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนได้ง่าย
- หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจำเป็นต้องมีการนวดหรือเกลี่ยให้เข้าที่อย่างเหมาะสม หากแพทย์ไม่ได้เกลี่ยให้ดี ก็อาจทำให้สารเติมเต็มจับตัวกันเป็นก้อนได้
- สารเติมเต็มไม่ผ่าน อย.หรือไม่ได้มาตรฐาน ร่างกายไม่สามารถสลายได้ ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนถาวร อักเสบ หรือเคลื่อนที่ได้ในระยะยาว ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่เหมาะสม เช่น หากมีการกดหรือนวดอย่างรุนแรง อาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนที่ไปรวมตัวกันและเป็นก้อนได้
สรุป โปรแกรมฟิลเลอร์ร่องแก้ม สวยอย่างปลอดภัย
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือการเติมสาร Hyaluronic Acid เข้าไปแก้ไขร่องลึกให้ตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใส ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดสารเติมเต็ม และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ปัญหาสารเติมเต็มเป็นก้อนมักเกิดจากเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หรือการเลือกชนิดไม่เหมาะสม ดังนั้น จึงควรฉีดหน้าแก้มโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด